แอร์เคลื่อนที่ในปัจจุบันได้รับความนิยมค่อนข้างมาก เนื่องจากอากาศที่ร้อนขึ้นในทุก ๆ ปี และคนเมืองส่วนใหญ่ ก็มักจะอาศัยอยู่ในอาคาร หรือบ้านเช่า ที่ไม่ต้องการเสียเงินติดแอร์ด้วยตัวเอง แอร์เคลื่อนที่จึงกลายมาเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่ต้องการความเย็นสบายแต่ไม่อยากติดตั้งแอร์ นอกจากนี้ แอร์ประเภทเคลื่อนที่ได้ ยังถูกนำมาใช้งานในสถานที่ต่าง ๆ ที่ไม่สามารถติดตั้งแอร์ได้ เช่น สนามนอกอาคาร ใช้เป่าลมให้ความเย็นเฉพาะจุด เป่าเต็นท์ในระหว่างการออกทริป หรือจะเป็นการใช้งานในห้องเซิร์ฟเวอร์ของบริษัทหรือสำนักงานต่าง ๆ

วัดพื้นที่ห้องที่ต้องการนำไปใช้งานกับแอร์เคลื่อนที่ แล้วเลือกตามข้อมูลต่อไปนี้

หน่วยวัดความเย็นในการใช้งานแอร์เคลื่อนที่กับห้อง ห้องหนึ่งนั้น การคำนวณ BTU และขนาดห้อง ต้องเป็นไปพร้อม ๆ กัน เพื่อไม่ให้แอร์ทำงานหนักจนเกิน ในขณะเดียวกัน ก็สามารถให้ความเย็นได้อย่างทั่วถึง โดยขนาดของ BTU จะสูงขึ้นตามราคาด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้น หากไม่อยากเสียเงินโดยไม่จำเป็น ให้เลือกตามขนาดเหล่านี้ดู เช่น

• ห้อง 7 ถึง 8 ตร.ม. ควรใช้แอร์เคลื่อนที่ขนาด 6,000 BTU
  
• ห้อง 9 ถึง 11 ตร.ม. ควรใช้แอร์เคลื่อนที่ขนาด 8,000 BTU
  
• ห้อง 12 ถึง 15 ตร.ม. ควรใช้แอร์เคลื่อนที่ขนาด 10,000 BTU
  
• ห้อง 16 ถึง 21 ตร.ม. ควรใช้แอร์เคลื่อนที่ขนาด 12,000 BTU
  
• ห้อง 22 ถึง 28 ตร.ม. ควรใช้แอร์เคลื่อนที่ขนาด 15,000 BTU

สิ่งที่ต้องคำนึงก่อนการตัดสินใจซื้อแอร์เคลื่อนที่

ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อแอร์เคลื่อนที่สักเครื่อง มีสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น หนึ่งในนั้นคือวิธีการบำรุงรักษา และเสียงในขณะเวลาทำงานว่ามีมากน้อยแค่ไหน รวมถึงมีระบบประหยัดพลังงานไฟฟ้าหรือไม่ เพราะอย่าลืมว่า แอร์เป็นเครื่องทำความเย็นชนิดหนึ่งที่กินไฟค่อนข้างมาก เพราะฉะนั้น หากคุณไม่อยากปวดหัวกับค่าไฟในภายหลัง ให้พิจารณาคุณสมบัติของแอร์เคลื่อนที่ ตามคำแนะนำดังต่อไปนี้

1. การดูแลรักษาแอร์เคลื่อนที่ ไม่เหมือนแอร์ติดผนัง
   ทุกคนคงจะคุ้นเคยกับการดูแลรักษาแอร์ติดผนังเป็นอย่างดี แต่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น ที่รู้ว่าการใช้งานแอร์เคลื่อนที่ ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนน้ำยาแอร์ทุก ๆ หกเดือน แต่สำหรับแอร์เคลื่อนที่ ระบบจะมีการนำน้ำที่ทิ้งแล้ว กลับไปหมุนเวียน เพื่อใช้ทำความเย็นใหม่ได้เลยทันที จึงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนอยู่ตลอด หรือเปลี่ยนบ่อยเท่าแอร์ผนัง ทั้งยังป้องกันปัญหาน้ำรั่วซึมได้อีกด้วย แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มีไฟโชว์ให้คุณเปลี่ยนน้ำ ก็ค่อยนำน้ำไปทิ้งแล้วเปลี่ยนใหม่ และควรมีการดูดฝุ่นจากเครื่องกรองฝุ่นบ่อย ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้การดูดลมของแอร์ เกิดการติดขัดจนกลายเป็นน้ำแข็ง และเครื่องเสียในที่สุด
   
   
2. ประหยัดพลังงานหรือไม่ ต้องดูให้ดี
   ตามคำแนะนำด้านบน ก็คือให้คุณเลือกขนาดของแอร์ที่จะทำความเย็นตามขนาดของห้อง จะเป็นการช่วยประหยัดพลังงาน เพื่อให้แอร์สามารถทำงานได้ตาม Circulation ที่ได้ถูกต้องตามขนาดของห้อง และความต้องการของผู้อยู่อาศัย ควรเลือกที่มีป้ายประหยัดไฟเบอร์ 5 มาพร้อมการทำงานของระบบแอร์ที่มี Inverter จะทำให้ประหยัดค่าไฟได้มากยิ่งขึ้น แต่จุดสำคัญก็คือ การเลือกขนาด BTU ให้เท่ากับขนาดห้อง
   
3. เสียงในระหว่างการทำงานของเครื่อง
   เรื่องนี้หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า แอร์เคลื่อนที่ จะมีระบบคอมเพรสเซอร์อยู่ในตัว ซึ่งแน่นอนว่าคอมเพรสเซอร์ส่วนใหญ่จะมีเสียงดังตามมาในระหว่างการทำงาน ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า สถานที่ ที่คุณจะใช้งานตัวเครื่องนั้น มีความกว้างขนาดไหน และตัวผู้ใช้งานสามารถรับกับเสียงของการทำงานคอมเพรสเซอร์ได้มากแค่ไหน หากคุณจะใช้งานในห้องครัว หรือห้องนั่งเล่น นั่นก็อาจจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณนำไปใช้งานในห้องนอน คุณอาจจะต้องการเครื่องประเภทที่เงียบที่สุด เพื่อไม่ให้รบกวนการนอน

ตอบข้อสงสัยเปิดแอร์พร้อมกับพัดลมช่วยประหยัดพลังงานได้จริงหรือไม่

เป็นเรื่องจริงที่เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณเปิดใช้งานแอร์ ไปพร้อม ๆ กับการเปิดพัดลม ไม่ว่าจะเป็นพัดลมชนิดใดก็ตาม ติดเพดาน หรือติดผนัง หรือแม้แต่พัดลมตั้งพื้น จะช่วยให้การทำงานของแอร์ทำงานน้อยลง แต่ผู้ใช้งานจะได้อุณหภูมิที่ลดลงไปกว่า 2 ถึง 3 องศาเลยทีเดียว จึงเห็นได้ชัดว่าวิธีทำแบบนี้ช่วยประหยัดพลังงาน ในการใช้งานแอร์เคลื่อนที่ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังประหยัดเงินในกระเป๋าของคุณได้ด้วย และยังช่วยให้อากาศสดชื่น และปลอดโปร่งมากยิ่งขึ้น

แอร์เคลื่อนที่ราคาดี ที่มาพร้อมกับระบบฟอกอากาศ

ความสะดวกของการใช้งานแอร์เคลื่อนที่นั้น นอกจากจะช่วยในเรื่องของความสะดวกสบายในการใช้งาน เพราะคุณสามารถมีแอร์เพียงเครื่องเดียว แต่ใช้งานได้ในทุก ๆ ห้อง ที่คุณต้องการ โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่คนเดียว ยังมาพร้อมกับระบบฟอกอากาศ ที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับราคาที่ถูกลงกว่าแอร์ติดผนังทั่วไป รวมถึงมีขนาดกะทัดรัด เคลื่อนย้ายสะดวก ให้ความเย็นได้เป็นอย่างดี หากคุณต้องการใช้งานในเฉพาะจุด เพียงแค่เสียบปลั๊กก็สามารถเปิดใช้งานได้แล้ว

นอกการเลือกขนาดที่ถูกต้อง ในการใช้งานของแต่ละห้องแล้ว คุณยังจำเป็นจะต้องหันหน้าแอร์เคลื่อนที่ไปให้ถูกทิศทางอีกด้วย และพยายามอย่าให้เครื่องโดนแสงแดดโดยตรงมากที่สุด เพราะเครื่องจะทำงานหนักเกินไป ส่งผลถึงอายุการใช้งานของตัวเครื่อง ติดตั้งให้อยู่ในมุมที่อากาศสามารถสะท้อนกลับได้ อย่างเช่นผนังแนวยาว หลีกเลี่ยงจุดที่เป็นมุมอับ เพื่อการกระจายความเย็นที่ทั่วถึง

สนใจติดตั้ง-ซ่อม-ล้างเเอร์ ซ่อมตู้เเช่ ซ่อมตู้เย็น ซ่อมเครื่องซักผ้า

ติดต่อ-สอบถาม : 0879472521
จิ้มทัก Line@ : ศูนย์บริการ
Facebook : ศูนย์บริการซ่อม เเอร์ ตู้เเช่ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า